ตำนานเมืองลับแล เป็นตำนานพื้นบ้านที่เล่าขานสืบต่อกันมาว่าชาวเมืองลับแลเป็นเมืองที่มีแต่หญิงสาวจึงเรียกกันว่าเมืองแม่หม้าย ผู้คนเมืองนี้ยึดมั่นแต่ความดี มีศีลธรรมและรักษาวาจาสัตย์ ต่อมามีชายหนุ่มชาวทุ่งยั้งคนหนึ่ง เดินทางหลงเข้าไปในเมืองลับแล พบสาวลับแลนางหนึ่ง ทั้งสองเกิดความรักต่อกัน สาวลับแลจึงรับชายหนุ่มไปอยู่บ้านตน และอยู่กันกันฉันสามีภรรยา สาวลับแลให้ผู้เป็นสามีสัญญาว่าจะไม่พูดเท็จ สามีรับคำ สองสามีภรรยาอยู่ด้วยกันจนมีบุตรหนึ่งคน วันหนึ่งขณะที่ภรรยาออกไปเก็บผักหักฟืน ลูกหิวนมร้องไห้ พ่อปลอบเท่าไรก็ไม่ยอมหยุดร้องไห้ จึงพลั้งปากบอกไปว่า
“โน่นแน่ะ….แม่มาแล้ว” เมื่อภรรยาทราบว่าสามีพูดเท็จ ก็จำเป็นต้องให้สามีออกจากเมืองลับแลไปเพราะไม่รักษาวาจาสัตย์ตามสัญญา ก่อนออกเดินทางภรรยาได้มอบย่ามใบหนึ่งให้สามี พร้อมกับกำชับว่าห้ามเปิดดูระหว่างทาง สามีจำต้องออกเดินทางไปจากเมืองลับแล ระหว่างทางนั้นสามีสะพายย่ามมาด้วยความเหนื่อยล้า และรู้สึกว่าย่ามหนักขึ้นทุกที ๆ จึงสงสัยว่ามีอะไรอยู่ในย่าม ทำไมจึงรู้สึกว่ามันหนักขึ้นทุกที ๆ เขาวางย่ามลงแล้วเปิดดู โดยลืมคำพูดของภรรยาเสียหมดสิ้น เห็นเป็นขมิ้นสด ๆ เต็มย่าม จึงรำพึงว่า “แหม….แค่ขมิ้นธรรมดา บ้านเรามีเยอะแยะเป็นดง จะแบกไปให้เหนื่อยทำไม”
ดังนั้นชายหนุ่มจึงทิ้งขมิ้นไป เหลือไว้ดูต่างหน้าเพียงหนึ่งแง่งเดียว ครั้นพอกลับไปถึงบ้านตน ก็เล่าความเป็นมาที่ตนเองหายจากบ้านไปนานให้ญาติ ๆ ฟัง และหยิบขมิ้นที่เหลือเพียงแง่งเดียวให้ญาติดู ปรากฎว่าขมิ้นแง่งนั้นกลายเป็นทองคำเหลืองอร่าม ชายหนุ่มตกใจมากและนึกเสียใจที่ตนเองไม่เชื่อภรรยาตั้งแตกแรก ก็เลยพยายามหาทางกลับไปเมืองลับแลอีกครั้งหนึ่ง แต่ปรากฎว่าหาทางเข้าไปในเมืองเท่าไหร่ก็ไม่พบ เหมือนจะแลลับหายไป ไม่มีแม้แต่ร่องรอยของขมิ้นที่ทิ้งไว้.
ปัจจุบันชาวเมืองลับแลยังคงยึดถือสัจจะวาจา ไม่พูดโกหก และเชื่อว่าเมืองลับแลที่กล่าวถึงนี้คืออำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์
ที่มา http://krulathiga.wordpress.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น